การเลือกสายกีตาร์
Jason เผยว่าเขาให้ความสำคัญกับสายกีตาร์มาก เพราะมันมีผลต่อโทนเสียงและความรู้สึกในการเล่นเป็นอย่างมาก เขามักจะใช้สายของแบรนด์ Ernie Ball รุ่น Mondo Slinky หรือ Paradigm ซึ่งเป็นสายที่ให้เสียงที่คมชัดและมีความทนทานสูง
Jason: “ผมต้องการสายที่สามารถรองรับการเล่นแบบ Extreme Picking และการ Bend สายที่หนักหน่วงได้ โดยที่ไม่ขาดง่าย Ernie Ball Paradigm ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีมาก”
ขนาดของสาย (String Gauge)
Jason ใช้สายที่มีขนาด 9-80 สำหรับกีตาร์ 7 และ 8 สาย ซึ่งเป็นขนาดที่ค่อนข้างหนา โดยเฉพาะสายต่ำสุด เพื่อรองรับการ Drop Tuning ที่เขามักจะใช้บ่อย ๆ
Jason: “ผมชอบให้สายบนมีขนาดเล็กพอที่จะเล่น Tapping และ Sweep Picking ได้ง่าย แต่สายล่างต้องหนักพอที่จะให้เสียงที่แน่นและคมใน Drop Tuning”
การตั้งสาย (Tuning Preferences)
Jason นิยมใช้ Drop Tunings เช่น Drop A หรือ Drop G สำหรับกีตาร์ 7 และ 8 สาย เขาบอกว่าการเลือกใช้สายที่เหมาะสมกับการตั้งสายเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถ้าสายบางเกินไป อาจทำให้เสียงเบลอและไม่มีความแน่น
Jason: “Drop Tuning ต้องใช้สายที่ใหญ่กว่าปกติ เพื่อให้ยังคงมีแรงตึงพอที่ไม่ทำให้เสียงเบลอหรือสายสั่นเกินไป”
วัสดุของสายกีตาร์ (Material Matters)
เขายังกล่าวถึงความแตกต่างระหว่าง Nickel Wound และ Coated Strings โดยเขาชอบใช้ Nickel Wound มากกว่า เพราะมันให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและมีความสว่างในโทนเสียง
Jason: “Coated Strings อาจช่วยให้สายทนขึ้น แต่บางครั้งมันให้สัมผัสที่แปลกไป ผมชอบความรู้สึกของ Nickel Wound เพราะมันตอบสนองต่อการเล่นของผมได้ดีกว่า”
เคล็ดลับการดูแลสายกีตาร์
Jason ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสายเพื่อให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นว่า ควรเช็ดสายทุกครั้งหลังเล่น และ เปลี่ยนสายเป็นประจำ เพราะสายเก่าจะทำให้เสียงขุ่นมัวและเล่นได้ยากขึ้น
Jason: “ผมเปลี่ยนสายบ่อยมาก เพราะมันช่วยให้เสียงของผมคมชัดและรักษาสัมผัสที่ลื่นไหลในการเล่น”